✅ S - See การมองเห็นหน้าจอแบบ Real time Visualization
การมองเห็นชั้นผิวขณะทำ ดีอย่างไร...
⁃ ยิงได้ถูกชั้นผิวที่ต้องการยก การยกหน้าที่คล้ายการทำผ่าตัดดึงหน้า หรือ Face lift คือ การยกชั้น SMAS ( ชั้นพังผืดคลุมกล้ามเนื้อของใบหน้า) ซึ่งปกติความลึกของชั้น SMAS มักจะอยู่ลึกที่ 4.5 mm
แต่ว่าในแต่ละคน แต่ละบริเวณความลึกไม่เท่ากัน การมองเห็นและยิง Ultherapy ได้ถูกความลึก จะทำให้การยกมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ
⁃ ได้พลังงานครบ 100% การมองเห็นหน้าจอขณะทำ จะเห็นว่าพลังงานลงได้ดีหรือไม่ ลงครบทุกจุดที่ยิงไหม เพราะหัวที่ปล่อยพลังงานได้ดี ต้องแนบสนิทกับใบหน้า คลื่นเสียง Ultherapy หรือเทคโนโลยี HIFU จะผ่านอากาศไม่ดีและไม่ลงสู่ผิวการทำและมองเห็นว่าพลังงานลงจริงๆจึงได้ผลดีกว่า

✅ P - Plan การวางแผนรักษา เหมือนการขับรถ ก็ต้องมีแผนที่ และมีการวางแผน ถึงจะไปถึงจุดหมาย ได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด
และการขับรถหรูที่มีสมรรถนะที่ดี ย่อมทำให้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น
Hyper-Personal Lift .... คือ การวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ออก แบบ Tailor-made เพราะหน้าของคุณ ผิวของคุณไม่เหมือนใคร การยิง Ultherapy จึงต้อง ออกแบบเฉพาะแต่ละเคส ตามปัญหาและความต้องการของคนไข้
อายุ เพศ ปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล ชั้นผิวหน้าเราในแต่ละบริเวณ ความลึกของผิวชั้นหนังแท้ และชั้น SMAS ไม่เท่ากัน การที่หมอวางแผน Mapping การรักษาก่อนจะทำให้ยิงได้ถูกชั้นที่เห็นผลที่สุด
{S&P : See & Plan ทำให้เราเลือก หัวของ Ulthera ที่ใช้ได้เหมาะสม ตรงชั้น ตรงปัญหา ช่วยให้คนไข้ เจ็บน้อยลงกว่าการยิงแบบ ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า }
✅ T-Treat การทำการรักษาที่ถูกวิธี ขึ้นกับเทคนิคของแพทย์ผู้ที่ทำ
รถหรูรถดี ก็ต้องขับเป็น และขับเก่งด้วย หลายคนมีปัญหาทำแล้วไม่ยกไม่เห็นหรือเกิดปัญหาเพราะไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญ การยิง Ultherapy ที่ได้ผล เป็นการทำงานตั้งแต่ ออกแบบการยิงให้เหมาะกับใบหน้า การเคลื่อนมือพร้อมดูหน้าจอขณะยิงเพื่อให้พลังงานลงอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
แพทย์ต้องรู้ตำแหน่งที่ห้ามยิงเพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นเส้นประสาทอักเสบมุมปากตกคิ้วตกเป็นต้นรวมถึงการทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยโดยการเตรียมตัวเตรียมผิวที่ดี